ฤดูฝนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักในเรื่องของการเดินทาง คนที่ไม่มีรถส่วนตัวก็ลำบากในการหารถ จะออกนอกสถานที่ทีก็เฉอะแฉะ ส่วนคนที่มีรถส่วนตัวก็ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรติดขัด ยิ่งกว่านั้นหากรถเกิดเสียหายหรือขัดข้องขึ้นมาระหว่างเดินทาง อาจจะเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร ดังนั้นสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ควรที่จะตรวจเช็คความพร้อมของรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ลองมาดูว่าอะไรบ้างที่ผู้ใช้รถต้องตรวจสอบ

      

      อย่างแรก... ใบปัดน้ำฝน มีความสำคัญมาเป็นอันดับ 1 ในช่วงฤดูฝน เพราะทัศนวิสัยที่ย่ำแย่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้นหลายเท่าตัว หากพบว่าใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ปัดไม่เกลี้ยง ก็ควรรีบเปลี่ยนทันที ค่าใช้จ่ายเพียงไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลักพันต้นๆ เท่านั้น แถมยังเปลี่ยนเองได้ไม่ต้องง้อช่างอีกด้วย

       

      อย่างที่สอง... ยางรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะยางที่ดอกโล้น จะทำให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำลดลง ส่งผลให้รถเสียหลักได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเจอแอ่งน้ำในขณะที่ใช้ความเร็ว หากตรวจเช็คสภาพยางแล้วพบว่าดอกยางมีความลึกต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร ก็ควรรีบเปลี่ยนทันที ซึ่งปัจจุบันมีโปรโมชันยางรถยนต์มากมายให้ใช้บริการ ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่าย แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นยางที่มีราคาถูก แต่ก็ยังปลอดภัยกว่ายางที่ดอกโล้นเป็นไหนๆ       

    

      อย่างที่สาม...ควรเช็คระบบไฟส่องสว่างทุกจุดรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามองเห็นถนนได้ดีขึ้นยามฝนตกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นเราได้ง่าย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลงได้อีกเยอะ และควรใช้สัญญาณไฟให้เหมาะสมทุกครั้งด้วย

        

      อย่างที่สี่...อย่าลืมเช็คระดับน้ำสำหรับฉีดกระจกบานหน้าและหลัง (ถ้ามี) ให้เต็มอยู่เสมอ และเช็คว่าน้ำยังฉีดแรงเหมือนเดิมไหม หากไม่...ลองไปหาเครื่องเป่าลมสวนรูปล่อยน้ำ เพราะบางครั้งอาจเกิดจากคราบตะกรัน หรือเศษผงอะไรไปติดอยู่

     

      อย่างที่ห้า...ระบบเบรกถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการขับรถยนต์ ระดับน้ำมันเบรกที่มีระดับไม่ต่ำกว่า Min และไม่เกิน Max เช็กสภาพสีน้ำมันเบรก หากมีสีดำเข้ม รีบหาช่างเปลี่ยนน้ำมันและลูกยางเบรกได้เลย สุดท้ายฟังเสียงเบรกถ้ามีเอี๊ยด ๆ แปลว่าผ้าเบรกอาจจะใกล้หมด หรือมีปัญหาที่จานเบรก

         

      อย่างที่หก...ในปัจจุบัน มีผู้ใช้งานรถ EV จำนวนเพิ่มขึ้น และ การชาร์ตไฟก็อาจจะเป็นปัญหาอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้รถEV ที่หากมีความจำเป็นต้องชาร์ตไฟในเวลาเดียวกันและในพื้นที่เดียวกันด้วย ยิ่งในช่วงหน้าฝนอีก อาจจะต้องวางแผนการเดินทาง รวมถึงวางแผนการแวะชาร์ตไฟให้ดี เพื่อให้กระทบการเดินทางน้อยที่สุด

       

     สุดท้ายการตรวจเช็คความพร้อมของตัวรถยนต์ เป็นเพียงการยืนยันความพร้อมของอุปกรณ์เท่านั้น แต่ตัวผู้ขับขี่เองก็เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ต้องอยู่ในสภาพความพร้อมต่อการขับขี่ตลอดเส้นทาง และที่สำคัญขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเองและผู้ร่วมท้องถนน

 

สนใจผลิตภัณฑ์และบริการ จากกลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) ให้เราเป็นเพื่อนคู่คิดทางการเงินของคุณ ติดต่อ DAOL Contact Center 0 2351 1800 หรือ Facebook สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัย