logo
search
flag-th
share-icon

เกษียณให้ดีควรมีเงินเท่าไหร่

 

“แสนเสียดายดันตายก่อนเงินหมด สุดสลดดันเงินหมดก่อนตาย” อาจเป็นวลีที่ฟังดูน่าขำ แต่หากมองให้ดีแล้วจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างมาก หากเกิดกับใครก็ตามที่อยู่ในภาวะผู้สูงวัยและไม่มีเงินเพียงพอ ด้วยเหตุที่ผู้สูงวัยมักไม่มีรายได้จากการทำงาน (active income) ประกอบกับสังคมไทยกำลังประสบภาวะครอบครัวโดยเฉลี่ยมีบุตรน้อยลง รวมทั้งค่าครองชีพปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้มีแนวโน้มว่าผู้สูงวัยต้องพึ่งพารายได้จากดอกผลของสินทรัพย์ที่สะสมไว้ (passive income) หรือการทยอยขายสินทรัพย์เพื่อสร้างกระแสเงินสดในการดำรงชีพ ชดเชยเงินสนับสนุนจากบุตรหลานที่อาจจะน้อยลง

 

การพึ่งพาตนเองในด้านการเงินให้ได้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งมักตามมาด้วยคำถามว่า “ควรมีเงินเท่าไหร่ จึงจะพอใช้จ่ายในยามเกษียณ” การจะตอบคำถามนี้นักวางแผนการเงินมักต้องแยกคำนวณตามวัตถุประสงค์ของการใช้เงิน เช่น เงินที่ใช้เพื่อดำรงชีพ เงินสำหรับกิจกรรมสันทนาการ และเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย เป็นต้น โดยบทความนี้ขอกล่าวถึงเฉพาะการประเมินเงินที่ใช้เพื่อดำรงชีพซึ่งเป็นพื้นฐานที่สุด

 

ปัจจัยที่ใช้มีสองเรื่อง เรื่องแรกคือ จำนวนเงินที่คาดว่าจะใช้แต่ละเดือนหลังเกษียณ ซึ่งอาจจะลองดูจากไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายแต่ละเดือนของตนเองในปัจจุบันก็ได้ เนื่องจากประเด็นหลักของการวางแผนเกษียณคือ การรักษาระดับคุณภาพชีวิตให้ไม่แตกต่างจากช่วงที่กำลังทำงานอยู่มากนัก อย่างไรก็ดี การประเมินตัวเลขนี้ควรดูจากค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการดำรงชีพ เช่น ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ของใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ภายในบ้าน เป็นต้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร ค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ หรือภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาจจะหมดไปแล้วในช่วงเกษียณ แต่หากไม่ทราบว่าควรกำหนดตัวเลขเท่าไหร่ ก็อาจอ้างอิงสถิติค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือน ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งประเมินไว้ราว 28,000 บาทต่อเดือน สำหรับผู้พักอาศัยในกรุงเทพฯ และ ราว 22,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยทั่วราชอาณาจักร

 

เรื่องต่อมาคือ ระยะเวลาที่จะใช้เงินหลังเกษียณ มักแทนด้วยส่วนต่างระหว่างอายุขัยที่คาดหวังกับอายุเกษียณ แต่หากท่านไม่สามารถประเมินอายุขัยตนเองได้ ก็อาจอ้างอิงข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล[1] ซึ่งจัดทำประมาณการอายุคาดเฉลี่ยที่อายุ 60 ปี (life expectancy at sixty) สำหรับชายไทยเท่ากับ 17.5 ปี (คืออายุคาดหมาย 77.5 ปี) และสำหรับหญิงไทยเท่ากับ 23.0 (คืออายุคาดหมายที่ 83 ปี)

 

นอกจากนี้ ก็ต้องกำหนดสมมติฐานประกอบ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเพื่อใช้คำนวณค่าใช้จ่ายที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เพื่อใช้ประมาณการดอกผลที่สามารถนำไปใช้หลังเกษียณ โดยบทความนี้ขอกำหนดสมมติฐานอัตราเงินเฟ้อที่ 2.5% ต่อปี และ ผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ 1% ต่อปี และอายุเกษียณที่ 60 ปี สมมติฐานข้างต้นสามารถสรุปเป็นจำนวนเงินที่ควรมี ณ วันเกษียณ ต่อจำนวนเงินที่ใช้ดำรงชีพที่ 10,000 ต่อเดือน ดังแสดงในตารางด้านล่าง

 

ตารางที่ 1: จำนวนเงินที่ควรมีเพื่อการดำรงชีพ สำหรับระดับการใช้จ่ายปัจจุบัน 10,000 บาทต่อเดือน

ปีที่จะเกษียณ

อายุปัจจุบัน

ชายไทย

หญิงไทย

เกษียณปีนี้

60 ปี

2.37

3.24

อีก 5 ปีจะเกษียณ

55 ปี

2.68

3.67

อีก 10 ปีจะเกษียณ

50 ปี

3.03

4.15

อีก 15 ปีจะเกษียณ

45 ปี

3.43

4.70

อีก 20 ปีจะเกษียณ

40 ปี

3.88

5.32

อีก 25 ปีจะเกษียณ

35 ปี

4.39

6.02

อีก 30 ปีจะเกษียณ

30 ปี

4.96

6.81

 

ข้อมูลในตารางสามารถแปลผลได้ว่า กรณีชายไทยเกษียณอายุปีนี้จะต้องมีเงิน 2.37 ล้านบาท ส่วนหญิงไทยต้องมีเงิน 3.24 ล้านบาทต่อความต้องการใช้จ่ายเพื่อดำรงชีพ 10,000 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่จะเกษียณในอนาคตก็ต้องเผื่อเงินเพิ่มขึ้นตามฐานค่าครองชีพในอนาคต ตัวอย่างเช่น หญิงไทยอายุ 45 ปี จะต้องเตรียมเงินไว้ 4.70 ล้านบาทต่อความต้องการใช้จ่ายเพื่อดำรงชีพ 10,000 บาทต่อเดือน หลังจากนั้น ก็นำไปคูณกับค่าใช้จ่ายตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ สมมติว่า หญิงไทยอายุ 45 ปี ปัจจุบันใช้จ่ายราว 30,000 บาทต่อเดือน ก็ต้องตั้งเป้าเตรียมเงินไว้เท่ากับ 4.70 ล้านบาทคูณ 3 เท่ากับ 14.1 ล้านบาทนั่นเอง

 

อย่างไรก็ดี หากท่านได้ลองคำนวณแล้วเห็นว่าตัวเลขนั้นสูงมาก ก็อย่าเพิ่งท้อใจไป เนื่องจากการคำนวณวางแผนเกษียณที่ครบถ้วนต้องคำนึงถึงแหล่งเงินลงทุนที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์และแบบบำนาญ หรืออื่นๆ ตามที่แต่ละท่านมีอยู่ รวมทั้งอัตราการสะสมเงินออมต่อปี อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์แต่ละประเภท และอื่นๆ ซึ่งไม่สามารถเขียนได้หมดในบทความเดียว ซึ่งจะคำนวณออกมาเป็นส่วนต่างเพื่อหาจำนวนเงินที่ต้องออมจริงต่อเดือน

 

อย่างน้อยตั้งเป้าหมายไว้ และเริ่มลงมือทำทีละเล็กทีละน้อย แล้วชีวิตวัยเกษียณที่มีเงินใช้อย่างเพียงพอและมีความสุขก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม

 

----------------------------------------------------------

 

สร้างแผนลงทุนเพื่อเป้าหมาย หรือวางแผนเกษียณ ได้ด้วยบริการ DAOLSEC Wealth Advice ลงทุนอย่างมั่นใจ บรรลุเป้าหมายอย่างมั่นคง

 

ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ DAOL Contact Center โทร 0 2351 1800

 

Chatpong

 

กลับสู่ด้านบน

combo-icon
certified

บริษัท ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อ

©2025 บริษัท ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์